บทความเพื่อการเรียนรู้สำหรับบุคคลทั่วไป

บทความถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญา
สงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ ดัดแปลง หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความก่อนได้รับอนุญาต

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554

ขวบปีที่สอง...นักสำรวจตัวน้อย

ขวบปีที่ 2: ‘นักสำรวจวัยฉันกำลังจะเป็นตัวของฉันเอง

 ครั้งแรกของชีวิตที่เด็กยืนบนขาของตัวเองได้
 เด็ก หัดยืนบนขาของตัวเอง ทั้ง 2 นัย คือ
 ด้านร่างกาย
 เด็กพัฒนากล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น 
ระบบการทรงตัวดีขึ้น เด็กเริ่มสามารถรับน้ำหนักร่างกายของตนเอง และเคลื่อนที่ได้ ด้วยตนเอง 

 ด้านจิตใจ 
เด็กเริ่มพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง เริ่มพึ่งตัวเองได้
 แต่เมื่อร่างกาย และกล้ามเนื้อของเด็กพัฒนาขึ้นจนเด็กสามารถเคลื่อนทีได้เอง (คลาน เดิน) ความกังวลของแม่ก็เพิ่มขึ้น

 คำพูดติดปากแม่ในช่วงเวลานี้คือ อย่า 
นั่นคือครั้งแรกที่แม่เริ่มฝึกวินัยลูกโดยการวางกรอบ กำหนดขอบเขตของการกระทำให้แก่ลูกว่าสิ่งใดทำได้ และสิ่งใดที่ทำไม่ได้ และเป็นไปโดยธรรมชาติ

ดังนั้นการฝึกวินัยเด็กเริ่มได้ตั้งแต่เล็กอย่างค่อยเป็นค่อยไป
 ไม่ใช่ต้อง รอให้โตก่อนอย่างที่หลายคนเข้าใจ
 เพียงแต่เด็กในวัยนี้ความเข้าใจยังน้อย ยังควบคุมตัวเองให้รอคอย อดทนอดกลั้นยับยั้งชั่งใจได้น้อย
 จึงยังคาดหวังระเบียบวินัยจริงจังจากเด็กวัยนี้ไม่ได้ 

นอกจากนี้เด็กยังอยู่ภายใต้แรงขับสำคัญคื
การพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อ ความเป็นตัวของตัวเอง และความต้องการข้อมูลเพื่อที่สมองจะพัฒนาต่อไป จึงผลักดันให้เด็กในวัยนี้เป็นนักสำรวจที่ไม่อาจหยุดนิ่ง

 สิ่งที่พ่อแม่ควรทำเป็นอย่างแรกเมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยนี้คือ
 การจัดบ้านให้สิ่งแวดล้อมของเด็กปลอดภัยต่อการสำรวจ ปิดลิ้นชัก บานเลื่อน หรือฝาตู้ต่างๆ เก็บงำสิ่งของอันตรายต่างๆ ให้มิดชิดพ้นสายตาพ้นมือเด็ก

 เมื่อสิ่งแวดล้อมปลอดัยคำพูดห้ามปรามของพ่อแม่ก็จะลดลง จาก 100 % เหลือสัก 5% 
ดังนั้นเมื่อแม่ห้ามเด็กจะเชื่อฟัง เพราะ แม่นานๆ ห้ามที ไม่ได้ห้ามเป็นกิจวัตรจนเด็กหูทวนลม และ เพราะสิ่งที่ห้ามจะเป็นสิ่งอันตรายแท้จริงที่พ่อแม่ยังป้องกันไม่ได้

 ดังนั้นการห้ามจะมีการใช้ภาษาท่าทางสื่อความจริงจังไปด้วยกัน
เด็กเล็กจะอ่านภาษาท่าทางของพ่อแม่ได้เข้าใจกว่าภาษาพูด
 แต่เด็กอยู่ในวัยพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง 
สมองเด็กขับดันให้เด็กสำรวจ และไม่คุ้นเคยกับการถูกขัดใจ


 เมื่อแม่ห้าม เด็กจึงรู้สึกขัดใจอย่างยิ่ง แต่ไม่สามารถหาทางออกได้
 เพราะ เด็กเล็กยังขาดความสามารถ 4 ประการที่ไม่ทัดเทียมผู้ใหญ่ คือ
 - ความรู้ความเข้าใจ 
 - ความสามารถในการสื่อสาร เจรจารอมชอม 
 - ความสามารถในการเบียงเบนความรู้สึกขุ่นข้องของตน 
 - ความสามารถในการยับยั้งใจ อดทนอดกลั้น


 เมื่อเด็กถูกขัดใจ จึงไม่อาจหาทางออกได้
 จึงย้อนกลับไปหาวิธีที่เด็กคุ้นเคยที่สุดในขวบปีก่อนหน้า คือ ร้องไห้’ 
ทั้งเพื่อแสดงอารมณ์ และเพื่อสื่อสาร


 เด็กจะมีคุณลักษณะใหม่อันหนึ่งคือ กลัวคนแปลกหน้าและ กลัวการแยกจาก เป็นกลไกเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายที่จะกรายเข้ามา (separation anxiety) 


(รออ่านต่อนะครับ) 

1 ความคิดเห็น: