หนึ่งในข้อปรึกษายอดฮิตจากผู้ปกครอง คือเรื่องการฝึกเขียน
ผมก็มักตอบไปในทำนองนี้ครับ..
ขอให้มองการเขียนเป็นผลปลายทาง
จะได้มาก็เมื่อความพร้อมของกล้ามเนื้อ
การประสานสัมพันธ์
การวางแผนการทำงานของกล้ามเนื้อ
และการทำงานร่วมตา-มือ ได้มาครบถ้วน
อยากได้การเขียน ต้องฝึกนิ้วและมือ
ถ้าฝึกเขียน จะได้การเขียนอย่างเดียว
แต่สูญเสียโอกาสเรื่องอื่นที่หลากหลาย
ถ้าฝึกทักษะที่หลากหลาย
จะได้การเขียนด้วย
มีเรื่องเล่าจากผู้ปกครองว่า
สังเกตเห็นว่าลูกมีความลำบากในการจับดินสอด้วย 3 นิ้ว แต่จะใช้การกำดินสอแทน
และสังเกตเห็นว่า เมื่อลูกได้”เล่น” ของเล่นที่มีการใช้มือ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “นิ้ว” ที่เพียงพอ
ลูกก็จับดินสอด้วย 3 นิ้ว ได้ถูกวิธี ด้วยตัวลูกเอง
สรุปเสร็จแล้วก็เสียดายรสมือ และในข้อความดีๆ จากผู้ปกครองท่านนั้น
จึงขออนุญาตยกบางข้อความที่น่าจะเป็นประโยชน์มาทั้งช่วง
เพื่อให้ผู้อ่านได้รับรายละเอียด และ อรรถรสไปด้วย ดังนี้..
“หนึ่งในความสามารถที่ทำให้มนุษย์ต่างจากสัตว์ก็คือ
การที่มนุษย์สามารถควบคุมนิ้วมือให้สามารถทำงานละเอียดได้
ซึ่งงานที่ละเอียดนี้เองก็จะสะท้อนกลับทำให้มนุษย์พัฒนาตัวเองได้ดีขึ้นและเมื่อพัฒนาดีขึ้น
ก็สามารถทำงานที่ละเอียดเพิ่มขึ้นสะท้อนไปสู่การพัฒนาที่สูงขึ้นกลับไปกลับมาเรื่อยๆ”
“ช่วงแรกเราพยายามจับมือลูกให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง
ทั้งการจับดินสอและการจับช้อน-ส้อม แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยเป็นผลนัก
เพราะว่าลูกก็จับได้อยู่สักพัก พอเขียนมันส์ๆ กินเพลินๆ ก็กลับไปจับแบบเดิมอีก
เราก็ทัก พอทักลูกก็พยามยามกลับไปจับแบบสามนิ้วใหม่ พอสักพักก็จับรวบแบบเดิม
อีกทั้งเราสังเกตว่าวิธีการจับแบบสามนิ้วของลูกก็ยังไม่ค่อยถูกต้องนักแม้เราจะพยามจัดท่าให้หลายครั้งแล้วก็ตาม”
“วันเวลาผ่านไป เราเองก็พยามฝึกไปเรื่อยๆ ในชีวิตแบบปกติ ซึ่งก็ไม่ค่อยมีมรรคมีผลอะไร
จนกระทั่งเมื่อวานนี้เราวาดรูปเล่นกัน
พ่อสังเกตได้ว่า เอ๊ะ! นี่ลูกจับปากกาถูกต้องแล้วนี่หว่า แถมจับถูกต้องตลอดการวาดรูปด้วย
พ่อกับแม่พยายามนึกว่า พรอันประเสริฐหรือบุญอันใดหนอที่ทำให้ลูกทำได้แบบนี้
แล้วเราก็นึกได้…”
“ตอนช่วงสงกรานต์เราซื้อของเล่นชิ้นนึงให้ลูกเป็นเรือถอดประกอบได้…
พอกลับมาบ้านพ่อเป็นคนต่อให้ ลูกก็แค่ถือไปมา เอาเรือไปลอยน้ำเล่นแค่นั้นไม่มีอะไรพิเศษ
แต่อยู่มาวันหนึ่ง ลูกจับมันถอดเป็นชิ้นๆ แล้วก็นั่งประกอบใหม่เอง
พ่อค่อนข้างมหัศจรรย์ใจเล็กน้อย เผลอครางในใจเบาๆว่า "เออ มันเก่งเว้ย"
แล้วลูกก็ชอบเอามันมาแกะเล่น ประกอบใหม่อยู่บ่อยๆด้วยคีมของเล่นที่ให้มาด้วย
ตลอดเวลาที่นั่งแกะประกอบ ลูกจะมีสมาธิ เอาชิ้นส่วนเล็กๆมายึด ต่อ ถอด ดึง เข้าด้วยกัน
และสามารถประกอบกลับได้คล่องและเรียบร้อยขึ้นเรื่อยๆ…”
“พ่อคิดว่าการทำงานของนิ้วมือสามนิ้วคงพัฒนาขึ้นมาตอนจับคีมถอดประกอบของเล่นนี่แหละ
การที่ลูกโตขึ้นก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความพร้อมทางกายภาพมีมากขึ้น
แต่ครอบครัวเรามั่นใจว่าเรื่องคลื่น alfa และ Floortime ก็คงมีส่วน
การที่ลูกมีโอกาสได้จดจ่อ ได้ฝึก SI ได้เห็นความสำเร็จ มีทักษะเพิ่มขึ้น ผ่านการเล่นนี้ มันเห็นผลมากกว่าการจับมือทำมากนัก
การฝึกฝนใดๆควรจะมีความสุขเป็นเอกสารที่แนบไปด้วยจึงจะได้รับการอนุมัติ”
ต้องขอบคุณเรื่องที่เล่ามา เป็นตัวอย่างที่ดี
เรื่องเล่านี้ การพัฒนาของลูกมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 2 ส่วน
หนึ่งคือ..
เมื่อทักษะที่จำเป็นได้รับการพัฒนา
เรื่องเขียน ก็เป็นเรื่องจิ๊บๆ
และสอง..
การฝึกฝนใดๆ การพัฒนาส่วนอ่อนด้อยใดๆ
ต้องอาศัยความสุข สนุกสนาน
……………………………………………….
แล้วก็มักตามมาด้วยคำถามเกี่ยวกับของเล่น
ผมก็มักให้คำตอบว่า…
ของเล่นที่ซับซ้อน
อยู่ในการเล่นสมมุติ ด้วยวัสดุธรรมชาติรอบๆ ตัว
และอยู่ในการทำงานบ้าน
ด้วยกันกับผู้ใหญ่ที่เขารัก และวางใจ
ของเล่นหาซื้อได้
ความสามารถต้องกระทำ
ทักษะไม่มีขาย
อยากได้ต้องลงมือ
หมายเหตุ :
เรื่องคลื่น Alpha เรื่อง Floortime และ เรื่อง SI ที่ผู้ปกครองท่านนี้เอ่ยถึง คืออะไรนั้น
ผมคงจะได้มาเขียนเล่าเพิ่มเติมเมื่อมีโอกาส ก็รอติดตามนะครับ
อาจจะนานหน่อย ตามเวลา และความพร้อมที่มีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น